7 เรื่องน่ารู้ สแตนเลสคืออะไร ???

7 เรื่องน่ารู้ สแตนเลส คืออะไร

สเตนเลส หรือตามศัพท์บัญญัติเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม เป็นเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำ(น้อยกว่า 2%)ของน้ำหนัก มีส่วนผสมของโครเมียม อย่างน้อย 10.5% ซึ่งจะทำหน้าที่สร้าง ฟิลม์บางๆ ขึ้นเพื่อทานการกัดกร่อน และจะสร้างฟิลม์ขึ้นใหม่ได้เอง หากผิวฟิล์มถูกขีดข่วน กำเนิดขึ้นในปี พ.ศ.1903 เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่า การเติมนิเกิล โมบิดินัม ไททาเนียม ไนโอเนียม หรือโลหะอื่นแตกต่างกันไปตามชนิด ของคุณสมบัติเชิงกล และการใช้ลงในเหล็กกล้าธรรมดา ทำให้เหล็กกล้ามีความต้านทานการเกิดสนิมได้

สารบัญเนื้อหา : 7 เรื่องน่ารู้ สแตนเลสคืออะไร ???

พบกับคอนเทนต์

สาระความรู้เรื่องแผ่นอลูมิเนียม

แผ่นสแตนเลส แผ่นเหล็ก ครบครัน

สามารถติดตามได้ทั้ง youtube และ tiktok
(กดที่รูปได้เลย)
youtube-icon-1
icons8-tiktok4
2024-04-26_163148

1. ประเภทของสแตนเลส ?

austenitic stainless steel
  •    ออสเทนนิติก (Austenitic) หรือกลุ่ม ซีรีย์ 300 เป็นสแตนเลสกลุ่มที่ผลิตเยอะที่สุดในโลก (ประมาณ 70% ของการผลิตแสตนเลสโลก) แม่เหล็กดูดไม่ติด โดยสแตนเลสกลุ่ม ออสเทนนิติค นี้ ประกอบด้วยคาร์บอน 0.15% ส่วนผสมของโครเมียม 18%แล้ว ยังมีส่วนผสมของนิกเกิล ซึ่งทำให้ขึ้นรูปประกอบได้ดีและช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนอีกด้วย ชนิดออสเทนนิติกเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุด ในบรรดาสเตนเลสด้วยกัน ส่วนออสเทนนิติกที่มีโครเมียมผสมอยู่สูง 20% ถึง 25% และนิกเกิล 1%ถึง 20% จะสามารถทนการเกิดออกซิไดซ์ได้ที่อุณหภูมิสูง ซึ่งใช้ในส่วนประกอบของเตาหลอม ท่อนำความร้อน และแผ่นกันความาร้อนในเครื่องยนต์ จะเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม ชนิดทนความร้อน (Heat Resisting Steel) ซึ่งทำให้ขึ้นรูปประกอบได้ดี
  • เฟอร์ริติก (Ferritic) แม่เหล็กดูดติด มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ และมีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลักคือประมาณ 13% หรือ 17%
    มาร์เทนซิติก (Martensitic) แม่เหล็กดูดติด โดยทั่วไปจะมีโครเมียมผสมอยู่ 12%และมีส่วนผสมของคาร์บอนในระดับปานกลาง มักนำไปใช้ทำส้อม มีด เครื่องมือตัด และเครื่องมือวิศวกรอื่นๆ ซึ่งต้องการคุณสมบัติเด่นในด้าน การต้านทานการสึกกร่อน และ ความแข็งแรงทนทาน
Duplex-stainless-steel
  • ดูเพล็กซ์ (Duplex) แม่เหล็กดูดติด มีโครงสร้างผสมระหว่างเฟอร์ไรต์และออสเตไนต์ มีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 18-28% และนิเกิล 4.5-8% เหล็กชนิดนี้มักถูกนำไปใช้งานที่มีคลอรีนสูงเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting corrosion) และช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน ที่เป็นรอยร้าวอันเนื่องมาจากแรงกดดัน (Stress corrosion cracking resistance)
Precipitation-Hardening-Steel
  • เหล็กกล้าชุบแข็งแบบตกผลึก (Precipitation Hardening Steel) มีโครเมียมผสมอยู่ 17 % และมีนิเกิล ทองแดง และไนโอเบียมผสมอยู่ด้วย เนื่องจากเหล็กชนิดนี้สามารถชุบแข็งได้ในคราวเดียว จึงเหมาะสำหรับทำแกน ปั้ม หัววาล์ว และส่วนประกอบของอากาศยาน สเตนเลส สตีล ที่นิยมใช้ทั่วไปคือ ออสเตนิก และเฟอร์ริติก ซึ่งคิดเป็น 95%ของเหล็กกล้าไร้สนิม ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

แบ่งย่อยก็จะได้มากกว่า 50 ชนิด
สแตนเลสสตีลไม่ใช่อัลลอยล์เพียงอย่างเดียว แต่ถูกจัดอยู่ในชนิดของเหล็ก อัลลอยล์จะมีส่วนประกอบเป็นโครเมี่ยมอย่างน้อย 10.5% ส่วนประกอบอื่นๆได้ถูกผสมเพิ่มขึ้นมาเพื่อเพิ่มการป้องกันการเกิดสนิมและการเกิดความร้อนได้ดีขึ้น เพิ่มคุณสมบัติทางกลไกและส่วนผสมใหม่ๆเข้าไป ดังนั้นสแตนเลสจึงมีมากกว่า 50 ชนิด โดยถูกกำหนดขึ้นโดยองค์กร the American Iron and Steel Institute(AISI) การแยกชนิดของสแตนเลสโดยทั่วไปแล้วมีอยู่ 3 ข้อคือ

  1. ส่วนประกอบทางเทคนิคของโลหะ
  2. ระบบเรียงลำดับของ AISI
  3. การจัดกลุ่มเดียวกันของระบบเรียงลำดับ ได้ถูกพัฒนาโดยองค์กรของอเมริกาที่ทำหน้าที่ทดสอบแร่ธาตุ(ASTM)และองค์กรยานยนต์วิศวกรรม โดยจะกำหนดตัวเลขให้กับโลหะและอัลลอยล์ทุกชนิด

2. เกรดของสแตนเลส

เกรดของสแตนเลส

เกรด 304 เป็นสแตนเลส ตระกูล ออสเทนนิติค Austenitic ที่ได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นสแตนเลสสตีลพื้นฐานที่ใช้ในการตกแต่งเพื่อความสวยงาม ชนิดนี้ง่ายต่อการขึ้นรูปและป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี

ทางร้านเรามีจำหน่าย ไซส์มาตราฐาน /สั่งตัดตามขนาดได้

รวมขนาดแผ่นสแตนเลส--Guenter.co

เกรด 304L เป็นสแตนเลสสตีลเกรด 304 ที่ลดปริมาณส่วนผสม ธาตุคาร์บอน ทำให้ทนการกัดกร่อนรอบขอบเกรนได้ดียิ่งขึ้นใช้ในงานการเชื่อมอย่างกว้างขวาง เครื่องจักร เครื่องมือในโรงงานเคมี เชื้อเพลิงและโรงงานปิโตรเคมีที่ต้องทนการกัดกร่อนรอบขอบเกรน ชิ้นส่วนโครงสร้าง ชิ้นส่วนรับความร้อน เหมาะกับการใช้งานเชื่อมที่ดีกว่า ข้อดีคือไม่เป็นสนิม เหมาะกับการใช้งานจำพวกแทงค์น้ำต่างๆ

เกรด 316 ถูกออกแบบให้มาป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี ใช้กับงานทนกรด ทนเคมี หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อย หรือกลุ่ม SUS316 ทนความผุกร่อนได้สูง สามารถทนความร้อนได้สูง ตัวสแตนเลส สามารถถูกใช้งานได้ในพื้นที่ภาวะกัดกร่อนสูง มีเวิร์คฮาดเดนนิงน้อย แม่เหล็กดูดไม่ติก จึงเหมาะกับการทำ เครื่องมือทดสอบน้ำทะเล โรงงานเคมี โรงงานทำสีย้อม โรงงานทำกระดาษ กรดสมุนไพร เครื่องจักรกลเกษตร เครื่องถ่ายภาพ โรงงานผลิตอาหาร เครื่องใช้ชายฝั่งทะเล

เกรด 316L เป็นสแตนเลสสตีลเกรด 316 ที่มีส่วนประกอบของคาร์บอนน้อยลงมาใช้กับงานทนกรดที่เข้มข้นกว่ามาก ทนเคมีมากกว่า หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อยมาก (มีความทนต่อกรดมากกว่า)

เกรด 430 เป็นสแตนเลสสตีลที่ใช้โครเมี่ยมเป็นส่วนประกอบ 100% และมีโอกาสเกิดสนิมน้อยกว่าเบอร์300 พวกนี้นิยมใช้ตกแต่งภายใน

เกรดที่เหมาะกับการใช้งาน

เกรด ลักษณะการใช้งาน ประเภทอุตสาหกรรมที่นำไปใช้
201

202

  • ทำพื้นรถเข็นต่างๆ- ทำเฟอร์นิเจอร์
  • ทำแผง และอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุ
  • ถังเก็บ, ถังแก๊ส
  • กันชนรถทุกประเภท
  • ท่อพักท่อไอเสีย
  •  ลายประดับรั้ว, ราวประเภทต่างๆ
  • อุตสาหกรรมรถเข็น
  • อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
  • อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการขนส่ง
  • อุตสาหกรรมแก๊ส
  • อุตสาหกรรมประกอบรถบรรทุก
  • อุตสาหกรรมประกอบรถยนต์
  • อุตสาหกรรมทำรั้ว, ราวประตู, หน้าต่างๆ(ใช้งานภายใน)
304
  • ตู้เย็น, เครื่องทำความเย็น
  • ทำเฟอร์นิเจอร์สนาม, เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานภายนอก
  • ถัง/แทงค์ บรรจุน้ำ
  • เครื่องใช้เกี่ยวกับครัวเรือน เช่น เตา – โต๊ะ : อุปกร์ประกอบอาหาร
  • เครื่องมือเวชภัณฑ์ ในโรงพยาบาล
  • เครื่องล้างจาน, อ่างล้างจาน, ภาชนะหุงต้ม
  • อุตสาหกรรมผลิตเครื่องเย็น
  • อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
  • อุตสาหกรรมผลิตถังน้ำ
  • อุตสาหกรรมผลิต/สั่งทำ เครื่องครัวอุปกรณ์,อุปกรณ์ต่างๆ
  • อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์
  • อุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือน/อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
316
  • โดยทั่วไปมีการใช้งานเหมือนเกรด 304 ซึ่งมีลักษณะการใช้งานที่กว้างกว่าเกรด 304 คือ
  • งานตกแต่งอาคาร, งานสถาปัตยกรรม
  • ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
  • ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ,เวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ
  • ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้อุตสาหกรรมต่อเรือ
  • อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน
  • อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม
  • อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
  • อุตสาหกรรมการต่อเรือ
410

430

  • ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์, สินค้าตกแต่งภายในบ้าน, อาคาร
  • เครื่องใช้, เครื่องมือบนโต๊ะอาหาร, มีด, ช้อน-ส้อม
  • อุปกรณ์ ดูดฝุ่น, ท่อดูดควัน, ท่อดัก
  • ใช้ทำส่วนประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น ท่อพัก, ท่อไอเสีย, ถังน้ำมัน
  • อุตสาหกรรมตกแต่งภายในอาคาร
  • อุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือน
  • อุตสาหกรรมผลิตท่อต่างๆ
  • อุตสาหกรรมประกอบชิ้นส่วนรถยนต์

3. คุณสมบัติของ สแตนเลส

คุณสมบัติของ สแตนเลส

สเตนเลสต่างชนิดกันที่มีโครงสร้างต่างกัน จะมีลักษณะค่าความแข็งแรงที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 4 ชนิด

  1. เกรดมาร์เทนซิติก มีค่าความจำนนความแข็งแรง (Yield Strength : YS) และค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate Tensile Strenght : UTS) สูงมากในสภาพที่ผ่านกระบวนการอบชุบ แต่จะมีค่าการยืดตัว (Elongation : EL %) ต่ำ
  2. เกรดเฟอร์ริติก มีค่าความจำนนความแข็งแรง และค่าความแข็งแรงสูงสุดปานกลาง เมื่อรวมกับค่าความยืดตัวสูง จึงทำให้สามารถขึ้นรูปได้ดี
  3. เกรดออสเทนนิติก มีค่าความจำนนความแข็งแรงใกล้เคียงกับชนิดเฟอร์ริติก แต่มีค่าความแข็งแรงสูงสุดและความยืดตัวสูง จึงสามารถขึ้นรูปได้ดีมาก
  4. เกรดดูเพล็กซ์ (ออสเตไนท์ – เฟอร์ไรต์) มีค่าความจำนนความแข็งแรง และค่าความยืดตัวสูงจึงเรียกได้ว่า เหล็กชนิดนี้มีทั้งความแข็งแรง และความเหนียว (Ductility) ที่สูงเป็นเลิศ

4. ความต้านทานการกัดกร่อน

ความต้านทานการกัดกร่อน

เหตุใด? สเตนเลสจึงทนต่อการกัดกร่อนได้ โลหะทุกชนิดทั่วไปจะทำปฎิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ เกิดเป็นฟิล์มออกไซต์บนผิวโลหะ หรือออกไซต์ ที่เกิดบนผิวเหล็กทั่วไป จะทำปฎิกิริยาออกซิไดซ์ และทำให้เกิดสภาพพื้นผิวเหล็กผุกร่อน ที่เราเรียกว่า เป็นสนิม แต่สแตนเลสมีโครเมียมผสมอยู่ 10.5% ขึ้นไป ทำให้คุณสมบัติของฟิล์มออกไซต์บนพื้นผิวเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นฟิล์มปกป้อง หรือพลาสซิฟเลเยอร์ (Passive Layer) ที่เหมือนเกราะป้องกัน การกัดกร่อน ซึ่งปรากฎการณ์นี้เรียกว่า พาสซิวิตี้ (Passivity) ฟิล์มปกป้องนี้จะมีขนาดบางมาก (สำหรับแผ่นสแตนเลสบางขนาด 1 มม. ฟิล์มหรือพาสซีฟ เลเยอร์นี้ จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่น บนตึกสูง 20 ชั้น) และมองตาเปล่าไม่เห็นฟิล์มนี้จะเกาะติดแน่น และทำหน้าที่ปกป้องสแตนเลส จากการกัดกร่อนทั้งมวล หากนำไปผลิตแปรรูปหรือใช้งานในสภาพเหมาะสม เมื่อเกิดมีการขีดข่วน ฟิล์มปกป้องนี้จะสร้างขึ้นใหม่ได้เองตลอดเวลา

ความคงทนของพาสซีสเลเยอร์ เป็นปัจจัยหลักของความต้านทานการกัดกร่อนของสแตนเลส นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสภาพการกัดกร่อนอันได้แก่ ความรุนแรง ของปฏิกิริยาออกซิไดซ์ ความเป็นกรดปริมาณสารละลายคลอไรต์ และอุณหภูมิ โดยทั่วไปแล้วการเพิ่มปริมาณ โครเมียมจะช่วยเพิ่มความ ต้านทาน การกัดกร่อนของสแตนเลส การเติมนิเกิลจะช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนโดยทั่วไป ให้ทนสภาวะกัดกร่อนรุนแรงได้ ส่วนโมลิบดินัมจะช่วยเพิ่ม ความต้านทานการกัดกร่อนเฉพาะที่ เช่น การกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting Corrosion)

ในทางปฏิบัติ สแตนเลสชนิดเฟอร์ริติก มีการใช้งานจำกัดในสภาพการกัดกร่อนปานกลาง ทั้งชนิดเฟอร์ริติกและออสเตนิติก สามารถใช้ทำ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนได้แต่เนื่องจากชนิดออสเตนิติกสามารถทนการกัดกร่อนได้ดี และทำความสะอาดง่าย จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม นอกจากนี้ชนิดออสเตนิติกยังทนการกัดกร่อนจากสารเคมีหลายประเภทได้แก่ กรด, อัลคาลายด์ เป็นต้น ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย ในอุตสาหกรรมเคมี และกระบวนการผลิตต่าง ๆ

5. วิธีทำความสะอาด ?

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

ผลิตภัณฑ์ ตัวอย่าง การใช้และข้อควรระวัง
ผงซักฟอก

ผงซักฟอก และสบู่ที่ใช้ในบ้าน

น้ำยาทำความสะอาดกระจก ใช้ล้างแตนเลสได้เป็นครั้งคราว แต่ต้องล้างออกด้วยน้ำเย็นให้หมด
ยาฆ่าเชื้อ

ในบ้านและในอุตสาหกรรม

ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเจือจาง โดยจำกัดจำนวนครั้งที่ใช้ ต้องล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด
สารละลาย

แอลกอฮอล์ และอะเซโทน

สำหรับคราบที่ล้างด้วยสบู่ไม่ออก เช่น สี และคราบมันจากสารอนินทรีย์ จากนั้นล้างด้วยสารละลายแล้วเช็ดออกด้วยสบู่ และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
กรดทำความสะอาด

สารละลายทำความสะอาดที่มีส่วนผสม ของฟอสฟอรัสและไนตริก

เป็นวิธีสุดท้ายที่ควรใช้ทำความสะอาดสแตนเลส ล้างออกด้วยน้ำร้อนหลายๆครั้ง โดยใช้ความระมัดระวัง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสำหรับการใช ้ที่ถูกต้องและปลอดภัย
ทำความสะอาดโดย ใช้เครื่องมือ

การยิงผิวหน้า, การขัดผิวหน้า, การขัดด้วยลวด, การใช้ผงขัด

คราบที่ล้างออกยาก ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเชิงกล ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องปลอดออกไซต์หลัก และระวังไม่ให้เกิดคราบขึ้นอีก การใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะทำให้ พื้นผิวสแตนเลสมีการเปลี่ยนแปลง

วิธีทำความสะอาดสำหรับคราบสกปรกทั่วๆ ไป

คราบสกปรก วิธีทำความสะอาด
รอยนิ้วมือ ล้างด้วยสบู่ ผงซักฟอก หรือสารละลาย เช่น แอลกอฮอล์ หรืออาเซโทน ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง
น้ำมัน คราบน้ำมัน ล้างด้วยสารละลายไฮโดรคาร์บอน / ออร์กานิก (เช่น แอลกอฮอล์) แล้วล้างออกด้วยสบู่ /ผงซักฟอกอย่างอ่อน และน้ำ ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง แนะนำให้จุ่มชิ้นงานให้โชกก่อนล้างในน้ำสบู่อุ่น ๆ
สี ล้างออกด้วยสารละลายสี ใช้แปลงไนล่อนนุ่ม ๆ ขัดออก แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็คให้แห้ง
Carbob Deposit or Bked-on จุ่มลงในน้ำ ใช้สารละลายที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบ ล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้ง
เปลี่ยนสีเนื่องจากความร้อน ทาครีม (เช่น บรัดโซ) ลงบนแผ่นขัดที่ไม่ได้ทำจากเหล็ก แล้วขัดคราบที่ติดบนสแตนเลสออก ความร้อนขัดไปในทิศทางเดียวกันกับพื้นผิว ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง
ป้าย และ สติกเกอร์ จุ่มลงในน้ำอุ่น ๆ ลอกเอาป้ายออกแล้วถูกาวออกด้วยเบนซิน ล้างออกด้วยสบู่และน้ำจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำอุ่น เช็คให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
รอยน้ำ / มะนาว จุ่มลงในน้ำส้มสายชูเจือจาง (25%) หรือกรดไนตริก (15%) ล้างให้สะอาด ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นล่างให้สะอาดด้วนน้ำอุ่น เช็คให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ
คราบชา – กาแฟ ล้างด้วยโซดาไบคาร์บอเนต ในน้ำ ล้างออกด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เช็คให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ

ความรู้และเทคนิค

ควรทำ ไม่ควรทำ

เมื่อไม่ได้มีการทำความสะอาดสแตนเลส อย่างสม่ำเสมอ เมื่อสังเกตเห็นคราบหรือฝุ่นละอองใด ๆ ต้องรีบทำความสะอาดทันที

ไม่ควรเคลือบผิวสแตนเลสด้วยแว็ก หรือวัสดุที่ผสมน้ำมัน เพราะจะทำให้คราบสกปรกหรือฝุ่นละอองติดบนพื้นผิวได้ง่ายขึ้น และล้างทำความสะอาดออกได้ยาก

 การทำความสะอาดสแตนเลส ควรเริ่มจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่อ่อนที่สุด โดยเริ่มใช้ในบริเวณเล็ก ๆ ก่อนเพื่อดูว่าเกิดผลกระทบอะไร กับผิวสเตนเลสหรือไม่

ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มีส่วนประกอบของคลอไรด์และฮาไลด์ เช่น โบรไมน์, ไอโอดีนและผลูออรีน

ใช้น้ำอุ่นล้างคาบความมันออก

ไม่ควรใช้ยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาดชิ้นส่วนสแตนเลส

หมั่นล้างสแตนเลสด้วนน้ำสะอาด เป็นขั้นตอนสุดท้ายเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม หรือกระดาษชำระ

ไม่ควรใช้กรดไฮโดรคลอริก (HCI) ในการทำความสะอาด เพราะอาจก่อให้เกิดการกัดกร่อน แบบรูเข็ม และการแตกเนื่องจากความเครียด (Stress Corrosion Crocking)

เมื่อใช้กรดกัดทำความสะอาดสแตนเลส ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เราไม่แน่ใจ

หลังจากใช้เครื่องครัวที่ทำด้วยสแตนเลส ควรล้างให้สะอาดทุกครั้ง

ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดเครื่องเงิน ในการทำความสะอาดสแตนเลส

หลีกเลี่ยงคราบ/สนิมเหล็ก ที่อาจติดมากับอุปกรณ์ทำความสะอาด ที่ทำมาจากเหล็ก หรือใช้ทำความสะอาดชิ้นส่วนเหล็กกล้าคาร์บอน

ไม่ควรใช้สบู่ หรือผงซักฟอกมากเกินไป เพราะจะทำให้ผิวสแตนเลสมัวและหมองลง

ในกรณีที่ประสบปัญหาในการทำความสะอาด
สแตนเลสควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ไม่ควรทำความสะอาด และทำพาสซิเวชั่นในขั้นตอนเดียวกัน ควรทำตามขั้นตอน คือ ล้างก่อนแล้วค่อยทำพาสซิเวชั่น

6. การทำพาสซิเวชั่น ในสแตนเลส (Passivation of Stainless Steel)

Passivation-of-Stainless-Steel

สแตนเลส คือวัสดุที่มีความทนทานการกัดกร่อนสูง ทนทานการเกิดสนิมมากกว่าวัสดุทั่วไป แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดสนิมเลย ตราบใดที่ผิวของสแตนเลส (Passive Film) ยังไม่ถูกทำลายไป โดยปกติแล้วพื้นผิวของสแตนเลส จะมี Passive Film เกิดขึ้นเองอยู่ที่พื้นผิวของโลหะ เมื่อมาขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน Passive Film นี้จะถูกทำลายจากความร้อนสูงในกระบวนการ “ตัด-ต่อ-เชื่อม” ทำให้ผิวของสแตนเลส (Passive Film) ถูกทำลายไป รวมถึงการใช้งานที่เกิดจากการผลิต และมีการสัมผัสกับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนอยู่เป็นเวลานานทำให้ผิวของสแตนเลสเกิดการถูกทำลายไปเรื่อยๆ

เพื่อเป็นการคืนพื้นผิวของสแตนเลสให้กลับมาเป็นปกติที่มีสภาพทนทานการกัดกร่อนสูง ทนทานการเกิดสนิม มากกว่าวัสดุทั่วไป จำเป็นต้องมีการทำพาสซิเวชั่น (Passivation) โดยมีการขัดพื้นผิวที่มีปัญหา (ที่เป็นสนิม) หรือการใช้สารเคมีกรดกัดสนิม(Pickling) ออกจากชิ้นงาน แล้วจึงใช้สารเคมีกรดเข้าไปช่วยทำลายเศษเหล็กที่หลงเหลืออยู่(Passivation) เพื่อทำให้โครเมียมที่ผิวเกิดการรวมตัวกับอ๊อกซิเจนในอากาศกลายเป็น Chromium(III)oxide หรือ Passive Film ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยป้องกันให้พื้นผิวสแตนเลสเกิดความทนทานต่อการกัดกร่อนอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้นก่อนใช้งานสแตนเลสทุกครั้ง จึงจำเป็นต้องมีการทำการทำพาสซิเวชั่น (Passivation) เพื่อให้เกิด Passive Film เพื่อให้ชิ้นงานสแตนเลสมีประสิทธิภาพในการทนทานการกัดกร่อนสูง ตรงตามวัตถุประสงค์ของการเลือกใช้งานวัสดุสแตนเลส

7. ผิวสแตนเลสมีอะไรบ้าง ?

สแตนเลสผิว BA

สแตนเลสผิว BA

ลักษณะของผิวสแตนเลส  BA-ผ่านกระบวนการรีดเย็นโดยความหนาลดลงทีละน้อยๆ ผ่านการอบอ่อนด้วยก๊าซไฮโดรเจน เพื่อป้องกันกันการออกซิเดชั่นกับออกซิเจนในอากาศ ผิวมันเงา สะท้อนความเงาได้ดี ผิวผลิตภัณฑ์สเตนเลสจะกระทำด้วยวิธีนี้ ซึ่งจะมีเครื่องหมาย BA หรือ No.2BA, A ซึ่งผิวอบอ่อนเงา จะมีลักษณะเงากระจก ซึ่งเริ่มต้นจากการรีดเย็น อบอ่อนในเตาควบคุมบรรยากาศ ผิวเงาที่เห็นจะเป็นการขัดผิวด้วยลูกกลิ้งขัดผิว หรือเจียรนัยผิวตามเกรดที่ต้องการ ผิวอบอ่อนเงาส่วนมากจะใช้กับงานสถาปัตยกรรม ที่ต้องการผิวสะท้อน ผิวอบอ่อนสีน้ำนมจะไม่สะท้อนแสงเหมือนกับ No.8 จะใช้กับงานที่เป็นขอบ ชิ้นส่วนทางสถาปัตยกรรม ภาชนะในครัว อุปกรณ์ในกระบวนการผลิตอาหาร

สแตนเลสผิว 2D

สแตนเลสผิว 2D

ลักษณะของผิวสแตนเลส 2D เป็นผิวสแตนเลสที่ผ่านการรีดเย็น อบอ่อน กัดผิวโดยกรด ผิวหยาบ ผิวมีลักษณะรีบ สีเทาเงิน มักนำมาใช้เป็นชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นงานที่ต้องการการขึ้นรูปลึก งานก่อสร้างและท่อ

สแตนเลสผิว 2B

สแตนเลสผิว 2B

ลักษณะของผิวสแตนเลส 2B ลักษณะผิวจะเงาขึ้นเล็กน้อยจากผิว 2D มีความสะท้อนแสง 22% ที่ผ่านลูกรีดขนาดใหญ่กดทับปรับความเรียบ เพิ่มความเงาผิวเงาสะท้อนปานกลาง ผลิตโดยวิธีการรีดเย็น ตามด้วยการอบนำอ่อนขจัดคราบออกไซด์ และนำไปรีดเบาๆ ผ่านไปยังลูกกลิ้งขัด ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปของการรีดเย็น ผิวที่ได้ส่วนมากจะอยู่ในระดับ 2B

สแตนเลสผิว Hairline

สแตนเลสผิว Hairline หรือ No.4

ลักษณะของผิวสแตนเลสผิว Hairline (แฮร์ไลน์) หรือ No.4 เป็นผิว 2B ที่ผ่านการขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ 120-220 โดยความหยาบของผิวจะขึ้นอยู่กับแรงในการกดและขนาดอนุภาคของเม็ดทราย และระยะเวลาการใช้งานกระดาษทราย ผิวแฮร์ไลน์ เป็นสภาพผิวที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น ลิฟท์ในอาคาร ร้านอาหาร อุปกรณ์ในครัว อุปกรณ์รีดนม เป็นต้น

ทางร้านเรามีจำหน่ายทั้ง แผ่นสแตนเลส ทั้ง ผิว 2B และ ผิว Hairline

แผ่นสแตนเลส ผิว 2B
จำหน่าย แผ่นสแตนเลสผิวแฮร์ไลน์ เกรด 304

ทางบริษัท กุนเทอร์ จำกัด

มีจัดจำหน่าย

แอดไลน์ : @guenter

*** หากท่านมีคำถามอยากจะปรึกษาในเรื่องของการใช้งาน การออกแบบ หรือ ปัญหาอื่นใดของท่าน โปรดอย่างลังเลที่จะติดต่อเรา เรามีวิศวกรชำนาญการที่พร้อมจะค่อยช่วยให้ตอบคำถามและไขข้อสงสัยของท่าน (คลิก)

สแตนเลสผิว No.1

สแตนเลสผิว No.1

ลักษณะของผิวสแตนเลสผิว No.1  เป็นผิวที่ผ่านกระบวนการรีดร้อน อบอ่อน กัดกรด ซึ่งปกติจะต้องนำไปรีดเย็นต่อ ผิวเทาด้านคล้ายกับผิว Pipe ของสแตนเลส NB สภาพผิวทั่วไปของแผ่นจะหนา 3 มม. ขึ้นไป นำไปใช้กับงานอุตสาหกรรม ใช้ทำถังและเครื่องมืออุตสาหกรรมเคมี

สแตนเลสผิว Mirror หรือ No.8

ลักษณะของผิวสแตนเลสผิว Mirror หรือ No.8 คือการนำผิว 2B, BA ขัดด้วยผ้าขัดอย่างละเอียดมากขั้นตามลำดับ เช่น #1000, ผ้าขนสัตว์ โดยมีผงขัดอะลูมิเนียมและโครเมียมออกไซด์ ผิว No.8 ส่วนมากจะเป็นผิวเงาสะท้อนคล้ายกระจกเงา ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นสเตนเลสชนิดแผ่นโดยผิวจะถูกขัดด้วยเครื่องขัดละเอียด นำไปใช้กับงานตกแต่งทางด้านสถาปัตยกรรม และงานที่เน้นความสวยงาม

บทสรุป

สแตนเลส คือเหล็กกล้าไรสนิม ทนทานการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม มีหลายเกรด นำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมที่หลายหลาย แต่ละเกรดก็มีลักษณะการใช้งานเฉพาะออกไป ถ้าลูกค้าท่านใด อยากได้งานตามที่ต้องการแต่ไม่รู้ ควรใช้เกรด, ผิว หรือ ความหนาแบบไหนถึงจะเหมาะ เรามีวิศวกรชำนาญการที่พร้อมจะค่อยช่วยให้ตอบคำถามและไขข้อสงสัยของท่านให้ตรงกับงาน ตอบโจทย์แน่นอน โปรดอย่างลังเลที่จะติดต่อเรา ปรึกษาฟรี !!! (คลิกเลย)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *